คำถามที่พบบ่อย

FAQs : ประเมินราคาโรงงาน

  • ทำไมค่าบริการของโปรสเปคจึงสูงกว่าที่อื่น

    จริงๆแล้ว เป็นค่าบริการตามมาตรฐาน ที่กำหนดโดยสมาคม การ ประเมินราคากับโปรสเปค เรามีมาตรฐานในการประเมิน ลูกค้าถือว่าได้กำไร โดยเฉพาะในเรื่องของ การส่งมอบงาน ทันเวลา ให้เป็นไปตามข้อตกลงการจ้าง ไม่มีการผิดนัดหมาย และเมื่อ เล่มรายงานประเมิน ไปยื่นกับ บุคคลที่ 3 หรือสถาบัน ต่างๆ จะได้รับการยอมรับ แล้วเรายังมีบริการหลังการขาย คอยให้ คำตอบแก่ผู้ที่ใช้รายงานและมีข้อสงสัย ให้กระจ่างเป็นอย่างดี ลูกค้าจึงมั่นใจที่จะใช้บริการ prospec จ่ายแพงกว่านิดหน่อยแต่ได้บริการที่ดีย่อมไม่ทำให้ลูกค้าลังเล

    ค้นหาคำถามที่เกี่ยวข้อง

    ค้นหาคำถามทั้งหมด

  • การสำรวจตรวจสอบทรัพย์สินต้องเข้าไปสำรวจภายในตัวอาคารหรือไม่

    ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การนำรายงานไปใช้ โดยปกติในการที่จะใช้รายงานประเมิน เพื่อทำธุรกรรมกับบุคคลที่ 3 เช่นกันนำไปยื่นกู้ เป็นหลักประกัน ผู้ที่จะใช้รายงานคงไม่ยอมรับรายงานประเมินราคาโดยที่ไม่เห็น สภาพภายใน เนื่องจากผู้ประเมินจะต้องเขียนเป็นข้อจำกัดเข้าไว้ อย่างชัดเจน  แต่ถ้าลูกค้า ผู้ว่าจ้างต้องการ ใช้รายงานเพื่อ ทราบส่วนตัว ไม่ได้นำไปทำธุรกรรมกับใคร ก็คงไม่มีปัญหา ไม่ต้องสำรวจภายใน อาคารก็ได้ แต่ก็ต้องตกลงกันว่า จะใช้เกรดของวัสดุในระดับ ดีปานกลางต่ำอย่างไร

    ค้นหาคำถามที่เกี่ยวข้อง

    ค้นหาคำถามทั้งหมด

  • หลักการประเมินราคา ทำอย่างไร แตกต่างจากราคาประเมินราชการหรือไม่

    หลักเกณฑ์การประเมินราคาของผู้ประเมินอิสระ จะใช้หลักเกณฑ์มูลค่าตลาด ซึ่งก็จะอ้างอิงจาก ตลาดที่มีการซื้อขาย ณ สภาพปัจจุบัน ดังนั้นจึงแตกต่างจากราคาประเมินราชการ ประเมินทุนทรัพย์เพื่อใช้ในการ จัดเก็บค่าธรรมเนียมภาษีอากรในการซื้อขายทำธุรกรรม ที่กรมที่ดิน

    ค้นหาคำถามที่เกี่ยวข้อง

    ค้นหาคำถามทั้งหมด

  • ทำราคาให้สูงหรือต่ำตามความต้องการของลูกค้าได้หรือไม่

     ตามมาตรฐาน และจรรยาบรรณ วิชาชีพ ผู้ประเมินไม่สามารถ ทำราคาให้สูงต่ำตามความต้องการของลูกค้าได้ ลูกค้ารายใดที่มีความคาดหวัง เรื่องผลลัพธ์ของราคาที่สรุป ประเมินให้   เราจะแนะนำให้ ลูกค้าใช้บริการประเมินราคาเบื้องต้น ยังไม่ต้องจ่ายค่าบริการเต็ม 100% ซึ่งจะมีบริการไปสำรวจทรัพย์สิน ณที่ตั้ง พร้อมทั้งข้อมูลตลาด แล้วทำการสรุปราคาให้ลูกค้าทราบ มีค่าบริการ บางส่วน ถ้าลูกค้าจะใช้บริการออกเล่ม จึงจะ จะให้จ่ายค่าบริการในส่วนที่เหลือ

    ค้นหาคำถามที่เกี่ยวข้อง

    ค้นหาคำถามทั้งหมด

  • กรณีอยู่นอกพื้นที่บริการหรือพื้นที่ห่างไกลคิดค่าบริการอย่างไร

    นอกพื้นที่บริการ คือมีรัศมี จากจุดบริการของเราออกไปเกินกว่า 30 กิโลเมตร จะมีค่าเดินทาง เพิ่มเติม โดยปกติค่าบริการเราจะคิด เป็นกิโลเมตรละ 5-8 บาทแล้วแต่สถานการณ์น้ำมัน ยกตัวอย่าง ถ้า ที่ตั้งทรัพย์สินห่างจากจุดบริการ 150 กิโลเมตร หักด้วย ระยะบริการฟรี 30 กิโลเมตร คงเหลือ 120 กิโลเมตร คิดไปกลับเท่ากับ 240 กิโลเมตร ค่าเดินทางกิโลเมตรละ 6 บาท คิดเป็น 1,440 บาท เป็นค่าเดินทาง ที่เป็น extra แต่ถ้าที่ตั้งทรัพย์สิน มีระยะทางเกิน 200 กิโลเมตรขึ้นไป จะมีค่าเบี้ยเลี้ยงค้างคืน 600 บาทต่อวัน สมมุติที่ตั้งห่าง 220 กิโลเมตรวิธีการคำนวณ หากด้วย 30 กิโลเมตรแรก เหลือ 190 * 2 เท่ากับ 380 คูณด้วย 6 บาทต่อกิโลเมตร จะเท่ากับ 2,280 บาท บวกด้วยค่าเบี้ยเลี้ยงค้างคืนอีก 600 เท่ากับ 2,880 บาท  ซึ่งค่าเดินทางเป็น ส่วนบวกเพิ่มพิเศษจากค่าวิชาชีพ

    ค้นหาคำถามที่เกี่ยวข้อง

    ค้นหาคำถามทั้งหมด

  • ระยะเวลาการจัดทำรายงาน ใช้เวลากี่วัน

    กรณีอยู่ในรัศมีทำการ 30 กิโลเมตร จากจุดบริการของ prospec งานประเมินราคาบ้านรายย่อยจะใช้เวลา 3-5 วัน ทรัพย์สินขนาดกลาง ใช้เวลา 5 ถึง 10 วัน ขนาดใหญ่ จะใช้เวลาตั้งแต่ 10 วันถึง 20 วัน นับจากวันที่ ผู้ประเมิน เข้าสำรวจตัวทรัพย์สินได้ และเอกสารต่างๆได้รับจากลูกค้าครบถ้วน โดยที่ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับตัวทรัพย์สินที่ต้องตรวจสอบละเอียด  กรณีที่อยู่ไกลจากรัศมีทำการ ก็จะบวกระยะเวลาการเดินทาง เข้าไปอีก ประมาณ 2-3 วัน

    ค้นหาคำถามที่เกี่ยวข้อง

    ค้นหาคำถามทั้งหมด

  • กรณีประเมินราคากับบริษัทไว้แล้วครั้งหนึ่งต่อมาจะไปยื่นใช้ทำธุรกรรมกับบุคคลอื่น มูลค่าที่ประเมินจะมีความแตกต่างจากเดิมหรือไม่

    มูลค่าทรัพย์สินจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ อย่างแรกถ้าสมมติฐานการประเมิน ยังคงเหมือนเดิม ต่อมา สภาพทรัพย์สินไม่มีการเปลี่ยนแปลง และ ระยะเวลาที่ทำการประเมิน ไม่ทิ้งห่างกันมาก ปกติเราจะให้เวลาประมาณภายใน 6 เดือน  ถ้า 3 อย่างนี้ ไม่มีรายการปรับเปลี่ยน ก็จะยืนยันได้ว่า ราคาที่ประเมินครั้งก่อน จะมีค่าเท่ากัน

    ค้นหาคำถามที่เกี่ยวข้อง

    ค้นหาคำถามทั้งหมด

  • ค่าบริการประเมินราคามีหลักในการคิดอย่างไร

    ค่าบริการประเมินราคาจะแบ่งออกเป็นตามเนื้องานตามหลักใหญ่ใหญ่ 2 ส่วนคือ ค่าบริการวิชาชีพ และ ค่าเดินทาง

    • 1.ค่าเดินทาง แน่นอนว่าการไปสำรวจ ณ ที่ตั้งทรัพย์สินเป็นข้อกำหนดตามมาตรฐานวิชาชีพที่ผู้ประเมินต้องไปสำรวจทรัพย์สินด้วยตนเอง จึงต้องมีค่าเดินทางหรือเบี้ยเลี้ยงหากมีระยะไกลต้องค้างคืน เว้นเสียแต่มีข้อตกลงการทำงานที่เป็นอย่างอื่น
    • 2.ค่าบริการวิชาชีพ ที่มีความสำคัญต่อค่าดำเนินการทางวิชาชีพนอกจากการไปสำรวจ ได้แก่ 1. วิธีการประเมินราคาตามประเภททรัพย์สิน และมูลค่าทรัพย์สินที่ต้องการทราบจะสัมพันธ์กับชุดข้อมูลตลาดที่ต้องจัดหาอาจมีหลายชุดข้อมูล 2. การตรวจรับรองเอกสารสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินที่ต้องมีการเดินทางไปและการยื่นเอกสาร 3. การตรวจรับรองกรรมสิทธิ์อาคารหากมีอาคารบนที่ดินถ้าต้องมีการไปตรวจสอบตามหน่วยงานราชการ 4. แบบแปลนอาคารหากลูกค้าไม่มีผู้ประเมินก็จะมีเนื้องานในการจัดทำผังขึ้นมาประกอบในรายงาน

    ค้นหาคำถามที่เกี่ยวข้อง

    ค้นหาคำถามทั้งหมด

  • เอกสารสิทธิ์ที่ดินถ้ายังไม่มีจะประเมินได้หรือไม่

    สามารถประเมินได้เอาตามที่ลูกค้านำชี้ถ้าคุณยังใช้รายงานประเมินเพื่อทราบเป็นการส่วนตัว แต่ถ้าจะนำไปใช้เพื่อทำธุรกรรมกับบุคคลอื่นถือว่ายังนำไปใช้ไม่ได้

    ค้นหาคำถามที่เกี่ยวข้อง

    ค้นหาคำถามทั้งหมด

  • ใบอนุญาตก่อสร้าง จำเป็นต้องแสดงให้ผู้ประเมินพิจารณาหรือไม่

    ถ้ามีควรแสดง เพื่อประกอบการรายงานตรวจสอบตัวอาคารและการแสดงกรรมสิทธิ์อาคาร อย่างไรก็ตามถ้าหากประเมินเพื่อใช้เป็นการส่วนตัวลูกค้าอาจแจ้งด้วยวาจาแก่ผู้ประเมินก็ได้

    ค้นหาคำถามที่เกี่ยวข้อง

    ค้นหาคำถามทั้งหมด

  • แบบแปลนอาคารหาไม่ได้ ไม่มี แล้วจะทำอย่างไร

    ทรัพย์สินที่เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแบบแปลนอาคารเป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องใช้ ประกอบ เอาไว้ในเล่มแนบท้ายรายงาน เพื่อใช้อ้างอิงขนาดเนื้อที่อาคาร หากลูกค้าไม่มีแบบแปลน ผู้ประเมินก็จะต้องเป็นผู้จัดทำขึ้นมาใหม่ โดยการไปวัดระยะขนาดและทำการสเก็ตช์ที่หน้างาน ซึ่งจะทำให้ต้องใช้เวลามากขึ้น และที่สำคัญ ลูกค้าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่จะต่างจากการมีแบบแปลนมายื่นอย่างทั่วไป

    ค้นหาคำถามที่เกี่ยวข้อง

    ค้นหาคำถามทั้งหมด

  • เอกสารที่ต้องจัดเตรียมใช้ในการยื่นขอประเมินราคามีอะไรบ้าง

    โดยทรัพย์สินที่เป็นพื้นฐานทั่วไป ถ้าเป็นที่ดินเปล่า ก็จะเป็นเอกสารสิทธิ์ประเภทโฉนดที่ดิน ครบทุกหน้า ถ้าเป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ก็จะขอแบบแปลนอาคารเพิ่มเติม เพื่อใช้ ประกอบในการคำนวณพื้นที่ใช้สอยเพื่อ ประเมินราคาอาคาร เอกสารอื่นๆก็จะมีการขอเพิ่มเติมได้อีก จากการสัมภาษณ์เพิ่มเติม ของเจ้าหน้าที่การตลาด หรือเจ้าหน้าที่ประเมิน ตามวัตถุประสงค์ของการประเมิน เช่น เอกสารการจดภาระจำยอมทางเข้าออก ใบอนุญาตก่อสร้าง ใบอนุญาตประกอบการ เป็นต้น ดังนั้นลูกค้าจึงต้องเตรียมไว้ให้พร้อม

    ค้นหาคำถามที่เกี่ยวข้อง

    ค้นหาคำถามทั้งหมด

  • ทำไมต้องเป็น ราคาประเมินเบื้องต้น หรือ ประเมินราคาเบื้องต้นแตกต่างจากการประเมินราคาเต็มรูปแบบอย่างไร

    การประเมินราคาทรัพย์สิน มีรูปแบบการดำเนินการอยู่ 2 หลักใหญ่ๆคือ การประเมินราคาเบื้องต้น กับการประเมินราคาแบบเต็มรูปแบบหรือเรียกว่า รายงานประเมินฉบับเต็ม ตามมาตรฐานทางวิชาชีพสามารถใช้ยื่นทำธุรกรรมกับบุคคลที่สาม กรณีของการประเมินราคาเบื้องต้นนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทราบมูลค่าทรัพย์สินเป็นการส่วนตัว ในการเตรียมการที่จะทำธุรกรรม หรือ เพื่อจะนำไปวิเคราะห์ หาข้อสรุป บางประการภายในกิจการของตนเอง เช่น การตั้งราคาซื้อขาย วิเคราะห์ความเป็นไปได้เบื้องต้น โดยหลักการของการประเมินราคาเบื้องต้น คือเป็นการประเมินราคาในสำนักงาน โดยผู้ประเมินยังไม่ออกสำรวจ ณ ที่ตั้งทรัพย์สิน ไม่ต้องรับรองสภาพที่ตั้งทรัพย์สิน และไม่ต้องรับรองเอกสารสิทธิ์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ลูกค้าจะเป็นผู้รับรองมาให้ จึงมีความแตกต่างจากการประเมินราคาฉบับเต็ม ซึ่งต้องทำการสำรวจทรัพย์สิน ณ สถานที่ตั้งและอาจจะต้องตรวจสอบรับรองเอกสารสิทธิ์ด้วย เป็นที่มาของความสะดวกรวดเร็วและค่าบริการที่ประหยัดกว่าเมื่อใช้บริการประเมินราคาเพื่อทราบราคาเบื้องต้น

    ค้นหาคำถามที่เกี่ยวข้อง

    ค้นหาคำถามทั้งหมด

Top