คำถามที่พบบ่อย

FAQs : ฐานะลูกหนี้

  • ทำไมค่าบริการของโปรสเปคจึงสูงกว่าที่อื่น

    จริงๆแล้ว เป็นค่าบริการตามมาตรฐาน ที่กำหนดโดยสมาคม การ ประเมินราคากับโปรสเปค เรามีมาตรฐานในการประเมิน ลูกค้าถือว่าได้กำไร โดยเฉพาะในเรื่องของ การส่งมอบงาน ทันเวลา ให้เป็นไปตามข้อตกลงการจ้าง ไม่มีการผิดนัดหมาย และเมื่อ เล่มรายงานประเมิน ไปยื่นกับ บุคคลที่ 3 หรือสถาบัน ต่างๆ จะได้รับการยอมรับ แล้วเรายังมีบริการหลังการขาย คอยให้ คำตอบแก่ผู้ที่ใช้รายงานและมีข้อสงสัย ให้กระจ่างเป็นอย่างดี ลูกค้าจึงมั่นใจที่จะใช้บริการ prospec จ่ายแพงกว่านิดหน่อยแต่ได้บริการที่ดีย่อมไม่ทำให้ลูกค้าลังเล

    ค้นหาคำถามที่เกี่ยวข้อง

    ค้นหาคำถามทั้งหมด

  • กรณีอยู่นอกพื้นที่บริการหรือพื้นที่ห่างไกลคิดค่าบริการอย่างไร

    นอกพื้นที่บริการ คือมีรัศมี จากจุดบริการของเราออกไปเกินกว่า 30 กิโลเมตร จะมีค่าเดินทาง เพิ่มเติม โดยปกติค่าบริการเราจะคิด เป็นกิโลเมตรละ 5-8 บาทแล้วแต่สถานการณ์น้ำมัน ยกตัวอย่าง ถ้า ที่ตั้งทรัพย์สินห่างจากจุดบริการ 150 กิโลเมตร หักด้วย ระยะบริการฟรี 30 กิโลเมตร คงเหลือ 120 กิโลเมตร คิดไปกลับเท่ากับ 240 กิโลเมตร ค่าเดินทางกิโลเมตรละ 6 บาท คิดเป็น 1,440 บาท เป็นค่าเดินทาง ที่เป็น extra แต่ถ้าที่ตั้งทรัพย์สิน มีระยะทางเกิน 200 กิโลเมตรขึ้นไป จะมีค่าเบี้ยเลี้ยงค้างคืน 600 บาทต่อวัน สมมุติที่ตั้งห่าง 220 กิโลเมตรวิธีการคำนวณ หากด้วย 30 กิโลเมตรแรก เหลือ 190 * 2 เท่ากับ 380 คูณด้วย 6 บาทต่อกิโลเมตร จะเท่ากับ 2,280 บาท บวกด้วยค่าเบี้ยเลี้ยงค้างคืนอีก 600 เท่ากับ 2,880 บาท  ซึ่งค่าเดินทางเป็น ส่วนบวกเพิ่มพิเศษจากค่าวิชาชีพ

    ค้นหาคำถามที่เกี่ยวข้อง

    ค้นหาคำถามทั้งหมด

  • ระยะเวลาการจัดทำรายงาน ใช้เวลากี่วัน

    กรณีอยู่ในรัศมีทำการ 30 กิโลเมตร จากจุดบริการของ prospec งานประเมินราคาบ้านรายย่อยจะใช้เวลา 3-5 วัน ทรัพย์สินขนาดกลาง ใช้เวลา 5 ถึง 10 วัน ขนาดใหญ่ จะใช้เวลาตั้งแต่ 10 วันถึง 20 วัน นับจากวันที่ ผู้ประเมิน เข้าสำรวจตัวทรัพย์สินได้ และเอกสารต่างๆได้รับจากลูกค้าครบถ้วน โดยที่ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับตัวทรัพย์สินที่ต้องตรวจสอบละเอียด  กรณีที่อยู่ไกลจากรัศมีทำการ ก็จะบวกระยะเวลาการเดินทาง เข้าไปอีก ประมาณ 2-3 วัน

    ค้นหาคำถามที่เกี่ยวข้อง

    ค้นหาคำถามทั้งหมด

  • ค่าบริการประเมินราคามีหลักในการคิดอย่างไร

    ค่าบริการประเมินราคาจะแบ่งออกเป็นตามเนื้องานตามหลักใหญ่ใหญ่ 2 ส่วนคือ ค่าบริการวิชาชีพ และ ค่าเดินทาง

    • 1.ค่าเดินทาง แน่นอนว่าการไปสำรวจ ณ ที่ตั้งทรัพย์สินเป็นข้อกำหนดตามมาตรฐานวิชาชีพที่ผู้ประเมินต้องไปสำรวจทรัพย์สินด้วยตนเอง จึงต้องมีค่าเดินทางหรือเบี้ยเลี้ยงหากมีระยะไกลต้องค้างคืน เว้นเสียแต่มีข้อตกลงการทำงานที่เป็นอย่างอื่น
    • 2.ค่าบริการวิชาชีพ ที่มีความสำคัญต่อค่าดำเนินการทางวิชาชีพนอกจากการไปสำรวจ ได้แก่ 1. วิธีการประเมินราคาตามประเภททรัพย์สิน และมูลค่าทรัพย์สินที่ต้องการทราบจะสัมพันธ์กับชุดข้อมูลตลาดที่ต้องจัดหาอาจมีหลายชุดข้อมูล 2. การตรวจรับรองเอกสารสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินที่ต้องมีการเดินทางไปและการยื่นเอกสาร 3. การตรวจรับรองกรรมสิทธิ์อาคารหากมีอาคารบนที่ดินถ้าต้องมีการไปตรวจสอบตามหน่วยงานราชการ 4. แบบแปลนอาคารหากลูกค้าไม่มีผู้ประเมินก็จะมีเนื้องานในการจัดทำผังขึ้นมาประกอบในรายงาน

    ค้นหาคำถามที่เกี่ยวข้อง

    ค้นหาคำถามทั้งหมด

Top