ช่วงนี้เราได้เห็นความเคลื่อนไหวของกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่จะมีการลงทุนผ่านช่องทางตลาดเงินและตลาดทุน และการลงทุนในภาคการผลิตโดยตรงตามภูมิภาคอาเชี่ยนแถบใกล้บ้านเรา ซึ่งอาจจะมีผลกระทบกับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของบ้านเราโดยตรง และโดยอ้อม
หนึ่งในอุตสาหกรรมเกษตรกรรมอันดับต้นๆของบ้านเราถ้าพูดถึงสินค้าผลิตเพื่อการส่งออกก็คงจะไม่พ้นทุเรียน โดยที่ในช่วงหลังที่ผ่านมานี้ ผู้ประกอบการปลูกทุเรียนได้หันมาให้ความสนใจกับตลาดจีนขนาดใหญ่ที่ความต้องการสูง และพร้อมที่จะจ่ายในราคาที่มากกว่าในประเทศ จึงเป็นเหตุให้ราคาทุเรียนในบ้านเราสูงมากขึ้นจึงเป็นเหตุให้ราคาทุเรียนในบ้านเราสูงมากขึ้นทั้งๆที่เป็นผลผลิตในประเทศ
ถึงอย่างไรก็ตาม ด้วยการแข่งขัน ณ ปัจจุบันจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ และ คู่แข่งในอนาคต อย่างประเทศลาวที่ InvestMaN จะพูดถึงในวันนี้อาจบังคับให้ผู้ประกอบการเกษตร และการส่งออกมองหาปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาทุเรียนซื้อขายในบ้านเรา
ด้วยเหตุนี้ จึงนำเรามาถึงประเด็นหลัก ข่าวร้อนแรงที่กำลังเป็นที่จับตามอง ณ ตอนนี้ แหล่งข่าวฐานเศรษฐกิจ ได้เผยให้ทราบถึง – นักลงทุนจีนขอสัมปทานที่ดินจากรัฐบาลลาว 3 หมื่นไร่ เพื่อปลูกทุเรียนนำส่งออกจีนโดยตรง ซึ่งมีศักยภาพที่จะสนับสนุนแนวทางการส่งเสริมของพรรคและรัฐบาลลาว ที่มีความต้องการมุ่งเน้นส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรเพื่อส่งออกไปต่างประเทศ และสามารถสร้างรายได้ให้ประชาชน และประเทศ ที่ ณ ปัจจุบัน นำเข้าสินค้านาๆชนิดจากต่างประเทศเป็นหลัก
ซึ่งในระยะหลังนี้ เราได้สังเกตเห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจการนำเข้าทุเรียนประเทศจีน อย่างต่อเนื่อง จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ประเทศไทยจะต้องรับมือกับการแข่งขันมากขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หากแผนการสัมปทานที่ดินประมาณ 20,000 – 30,000 ไร่ เริ่มต้นเมื่อใด ด้วยภูมิประเทศที่ใกล้เคียงกับบ้านเราและค่าแรงที่ถูกกว่ามาก ประเทศลาวจึงมีศักยภาพสูงในอุตสาหกรรมการเกษตร
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ประเทศลาวได้เปรียบอย่างชัดเจนได้แก่ ข้อตกลงการค้าเสรี เพื่อยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้า ระหว่างลาว และหลายประเทศ รวมถึงจีน ตลาดที่มีผู้บริโภคขนาดใหญ่สุด นอกเหนือจากทุเรียน นี่อาจจะเป็นช่องทางการเติบโตของเกษตรกรรมในภาพรวมของประเทศลาวในอนาคตเลยก็เป็นได้
จากตัวอย่างของข่าวเราจะเห็นได้ว่า กลุ่มทุนต่างๆที่จะมีการเคลื่อนย้ายเงินทุนนั้นเขาได้มีการเตรียมการศึกษาโครงการเอาไว้ก่อนหน้าที่จะมีการตัดสินใจลงทุนนั้น เขาจะต้องได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ การวิเคราะห์ทำเลที่ตั้งให้เหมาะสมกับธุรกิจที่พร้อมกับโครงสร้าง และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับธุรกิจนั้นๆ การคัดเลือกที่ตั้งโครงการระดับเป็นหมื่นเป็นแสน ไร่ จะมีการทำ Site Selection ทำการศึกษาเป็นทางเลือก ให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้อย่าง ถูกต้อง
ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นของที่ดินเพื่อนำมาใช้ประโยชน์เชิงเกษตรกรรมนี้ สามารถส่งผลให้ราคาที่ดินปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ผู้ที่ถือครองที่ดิน หรือมีความประสงค์ที่จะซื้อขายที่ดินเพื่อประกอบการเกษตรควรศึกษาถึงมูลค่าปัจจุบันเสียก่อน โปรสเปคยินดีให้บริการและปรึกษาด้านการประเมินราคาที่ดิน หรือแม้แต่ การประเมินราคาธุรกิจสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของกิจการ เพื่อนำไปใช้ในการธุรกรรม รวมถึงการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ Feasibility Study และ Site Selection
ขอบคุณแหล่งข่าว : ฐานเศรษฐกิจ