Blog Invest:Man

อดใจอีกไม่นาน คนกรุงเทพฯฝั่งใต้และตะวันออกจะได้เฮ เมื่อจะเดินทางไปอิสานเหนือไม่ต้องอ้อมไปเริ่มต้นกระจุกตัวกันที่วังน้อยอีกต่อไปแล้ว เมื่อมีโครงการส่วนต่อขยายจากปลายทางด่วนฉลองรัช เดิมซึ่งไปสุดที่วงแหวนตะวันออก แล้วต้องขับย้อนขึ้นเหนือไปตามถนนวงแหวนตะวันออกไปจนถึงวังน้อยแล้วจึงเลี้ยวขวาเข้าถนนมิตรภาพเพื่อไปสระบุรี-อิสานเหนือ ซึ่ง จะมีรถจากทางตะวันออกและจากสนามบินสุวรรณภูมิ ประดังกับรถที่ไหลมาจากทางเหนือและตะวันตก ที่ต้องใช้เส้นทางร่วมสายนี้มีจำนวนมาก แออัดกันเป็นคอขวด เมื่อมีโครงการนี้จะทำให้ แก้ปัญหารถติด ในช่วงฤดูกาลวันหยุดยาว และรถจากตะวันออกก็จะชอร์ทคัทตรงไปสระบุรีได้เลย รับผิดชอบโครงการโดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ความคืบหน้าของโครงการ อยู่ในขั้นตอนของการสำรวจออกแบบ โดยได้สรุปเลือกแนวเส้นทางเป็นที่แน่นอนแล้ว และจะดำเนินการออกเป็น พระราชกฤษฎีกา เพื่อสำรวจ ตามแนวเวนคืน เป็นขั้นตอนต่อไป จุดเริ่มต้นของโครงการอยู่ที่ ปลายทางด่วน สายฉลองรัช บริเวณด่านจตุโชติเชื่อมกับถนนวงแหวน ตะวันออก รายละเอียดโครงการมีระยะทาง 104.7 กิโลเมตร เป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร (ทิศทางละ 3 ช่องจราจร) เริ่มต้น

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ทำการมอบหมายนโยบายให้กรมธนารักษ์ประสานงานกับกรมที่ดิน และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมทางหลวง กรมชลประทาน และหน่วยงานอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งถนน รถไฟฟ้า และชลประทาน เพื่อใช้ประกอบการประเมินราคาที่ดินรอบใหม่ ที่จะนำมาใช้ในปี 2565 หลายพื้นที่ๆได้รับการพัฒนาย่อมมีแนวโน้มราคาที่สูงขึ้นไปด้วย เนื่องจากการประเมินราคาที่ดินมีองค์ประกอบที่สำคัญ หลังจากที่รัฐบาลพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขึ้นมาแล้ว ก็ช่วยอำนวยความสะดวก ฉะนั้น การประเมินราคาที่ดินจะต้องพิจารณาองค์ประกอบส่วนนี้เข้าไปด้วย เพื่อให้การประเมินราคามีความสอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุด การประเมินราคาที่ดินมีหลายปัจจัย ทั้งความเจริญของธุรกิจและการพาณิชย์ในบริเวณนั้น เส้นทางการคมนาคมที่ได้มีการพัฒนาเรื่องของรถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ ถนนตัดใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ที่ดินตามพื้นที่นั้นๆก็จะมีราคาเพิ่มขึ้น การอัพเดตราคาที่ดินโดยการประเมินใหม่ จะช่วยลดความแตกต่างระหว่างราคาประเมินปัจจุบัน และ ราคาซื้อขายจริง นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้มอบนโยบายผลัก

Invest:MaN จะพาไปสำรวจราคาประเมินที่ดินในกรุงเทพมหานครจากข้อมูลของ กรุงเทพธุรกิจ ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวอย่างน่าสนใจด้วยจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น บวกกับเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตรงกันข้ามกับที่ดินซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีจำกัด ความต้องการด้านการอยู่อาศัยของประชาชน และการพาณิชย์ของบริษัทน้อยใหญ่ ด้วยเหตุนี้ ราคาที่ดินย่อมมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เรามาทำความรู้จักกับพื้นที่ในแต่ละเขตของกรุงเทพมหานคร ที่มีราคาประเมินสูงกันดีกว่า ราคาประเมินที่ดินที่ กรมธนารักษ์ ได้ทำการสรุปตามรอบบัญชี ปี 2559-2562 ในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นการสรุปภาพรวมของราคาประเมินที่ดินเป็นรายถนน ไม่ใช่ราคาที่ดินรายแปลงที่มีการซื้อขายในตลาด ผู้ที่มีความประสงค์ที่จะทราบราคารายแปลงที่ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้โดยเช็คกับสำนักงานที่ดิน หรือ สำนักประเมินราคาทรัพย์สินของกรมธนารักษ์ ราคาประเมินที่ดินแยกตามสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร ตามที่เว็บไซต์กรมธนารักษ์แบ่งไว้ ทั้งหมด 17 เขต เราสามารถจัด 10 อันดับที่ดินที่มีราคาประเมินแพงที่สุด (ราคาต่อตารางวา) ได้ตามนี้ 1. ถนนสีลม ราคาประเมินอยู่ที่ 700,000 – 1,000,000

โครงการมีแผนงานระยะเวลา 9 ปี เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2563 คาดว่าแล้วเสร็จพร้อมใช้งานปี 2571 ณ ปัจจุบัน กรมทางหลวงได้ทำการศึกษาความเหมาะสมของโครงการเสร็จแล้ว เตรียมพร้อมลงสำรวจที่ดินแนวเวนคืนเพื่อการออกแบบ ภายในปี 2565 ก่อนที่จะขออนุมัติโครงการในปี 2566 เพื่อกระบวนการเวนคืน และเริ่มต้นการก่อสร้าง รายละเอียดภาพรวมโครงการดังนี้ 1.ระยะทางโดยรวม 202 กม. ขนาด 4 ช่องทางจราจร 2.มูลค่าโครงการประมาณ 103,915 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนตามนี้ : ค่าก่อสร้างงานโยธา 42,935 ล้านบาท ค่าเวนคืนที่ดิน 6,505 ล้านบาท ค่าก่อสร้างด่านเก็บค่าผ่านทาง และ งานระบบ 6,206 ล้านบาท ค่าพัฒนาที่พักริมทาง 2,352 ล้านบาท ค่าดำเนินงานและบำรุงรักษา 42,664 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายอื่นๆ 3,253 ล้านบาท 3.ที่ดินถูกเวนคืนทั้งหมด 4,651 แปลง รวมถึงสิ่งปลูกสร้าง 180 หลัง 4.ปริมาณการจราจรที่ให้บริการคาดหวังไว้ที่ 41,801 คัน/วัน สรุปเส้นทางโดยรวมของมอเตอร์เวย์สายใหม่นี้จะเริ่มต้นที่บริเวณ กม.183+000 อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จากนั้นเข้าสู่พื้นที่ อ.โนนสูง อ.พิมาย และ อ.โนนแดง แล้วจึงตัดผ่านทางหลวงหมายเลข 202 ก่อนวิ่

ในช่วงสถานการณ์ที่จัดว่าเป็นช่วงขาลงของธุรกิจโรงแรม แต่ยังมีกลุ่มนักธุรกิจบางส่วนที่ยังคิดว่าเป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ที่กำลังมองหาช่องทางลงทุนหรือแหล่งทุน ต้นทุนดอกเบี้ยต่ำ อย่างเช่นข่าวสารด้านการลงทุนที่ Invest:M@N ว่ากำลังน่าสนใจ นอกจากนี้ ในการซื้อขายโรงแรมจะเป็นทรานแซคชั่นที่พออ้างอิงได้ ในราคาของ 2 โรงแรมระดับ 5 ดาว ติดแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ในทำเลดี จำนวนห้องของทั้ง 2 โรงแรมรวมกันอยู่ที่ 400 ห้องซึ่งมีมูลค่าโดยประมาณของการซื้อขาย จากแหล่งข่าว อยู่ที่ หนึ่งหมื่นล้านบาท ดังนั้นราคาเฉลี่ยต่อห้องจะอยู่ที่ 25 ล้านบาท เปอร์คีย์ เผื่อหลายท่านจะใช้ในการประมาณ Discount Cash Flow เพื่อการลงทุน Port ส่วนตัวของตัวเองนะครับ เเหล่งข่าวเเละข้อมูล การเงินการธนาคาร Money And Banking Thailand

ผ่านไปแล้วสำหรับปี 2020 ที่แสนจะยากลำบากสำหรับทุกคน ถึงอย่างไรก็ตามโควิดยังคงอยู่อย่างต่อเนื่อง วันนี้เราจึงพาผู้อ่านมาดูความเปลี่ยนแปลงของตลาดอสังหาเพื่อการอยู่อาศัยในกรุงเทพ ตั้งแต่โควิดเริ่มระบาดเมื่อต้นปีที่พึ่งผ่านไป จนถึง ณ บัดนี้ และมีทีถ้าว่าจะคงอยู่อีกระยะยาว ผู้คนปรับตัวและการใช้ชีวิตให้เข้ากับยุค New Normal การทำงานที่บ้านหรือ “Work From Home” กลายเป็นเรื่องธรรมดาแต่จำเป็นสำหรับธุรกิจ ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดอสังหาเพื่อการอยู่อาศัย จากเดิมที่ผู้คนกรุงเทพหันมาให้ความสนใจอสังหาประเภทคอนโดมิเนี่ยมและอพาร์ทเม้นท์ใจกลางเมือง ยอมอยู่อาศัยในพื้นที่คับแคบเพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางไปทำงาน การเดินทางไปทำงานไม่ใช่ปัญหาของคนกทมอีกต่อไป ที่ส่วนใหญ่มีทางเลือกการทำงานที่บ้าน คนกลับมาให้ความสนใจอสังหาประเภทบ้านเดียวและทาวน์เฮ้าส์อีกครั้งเหมือนในสมัยก่อน กลุ่มบริษัทพัฒนาคาดการความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้คนที่กำลังหาซื้อที่อยู่อาศัยและให้ความสำคัญกับโครงการบ้านประเภทต่างๆนานา เพื่อตอบสนองความต้องการผู้คนที่ใช้ชีวิตในบ้านมากขึ้นและต้องการพื้นที่อยู่อาศัยใช้สอยมา

คนรุ่นใหม่มีความคิดที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป แนวคิดและไอเดียเรื่องการทำงานก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ผู้คนในยุคสมัยใหม่มีความต้องการที่จะเป็นนายของตัวเองตรงกันข้ามกับในสมัยก่อนที่ทุกคนต้องการทำงานในบริษัทสร้างความมั่นคงในชีวิต ผู้จบการศึกษาใหม่หรือคนที่พึ่งเริ่มก้าวสู่ชีวิตการทำงานเต็มตัวมีความฝันที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจทันที ถึงอย่างไรก็ตาม การสร้างธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะในยุคสมัยนี้ที่การแข่งขันที่สูงมากขึ้น ธุรกิจแฟรนไชส์จึงได้กลายเป็นอะไรที่ทุกคนมองหาเสมือนทางลัดในการเป็นเจ้าของธุรกิจ ด้วยหลายๆเหตุผล เช่น การลดความเสี่ยงในการเริ่มต้นสร้างธุรกิจใหม่จากศูนย์ และ ระยะเวลาในการคืนทุน ยกตัวอย่างเช่น กิจการร้านอาหารและร้านกาแฟ เราได้เห็นใหม่ๆมากมายในช่วง 5 ปีให้หลัง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์จากไทย หรือ จากต่างประเทศ ด้วยสถานการณ์โควิดที่ทุกคนต้องเผชิญ การทำมาหากินเป็นเรื่องที่ลำบากท้าทายมากขึ้นไม่ว่าคุณจะอยู่ในอุตสาหกรรมไหนก็ตามรวมถึงกิจการแฟรนไชส์ เราจึงควรจะศึกษาวิธีการปรับกลยุทธ์ของแฟรนไชส์เพื่อการอยู่รอดของธุรกิจในช่วงเวลา New Normal นี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะ แฟรนไชส์ซอร์ หรือ แฟรนไ